ก่อนจะไปดูตัวหมวก EVO21 รู้จักบริษัทนี้กันก่อน เพราะเชื่อว่าสำหรับคนที่ปั่นจักรยานถนนแนวแข่งขันเป็นหลักอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อ
แบรนด์ Livall นี่ดังมาจากวงการ Kickstarter เปิดตัวเมื่อปี 2014 โดย Bryan Zheng (คนขวาสุด) ซึ่งโปรเจ็ค Kickstarter อันแรกก็เป็น smart helmet นี่ล่ะครับ แต่พัฒนาต่อมาเรื่อยๆ
ตอนนี้บริษัทเติบโตไปมากแล้ว เป็นแบรนด์หมวกที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในการใช้จักรยาน จดสิทธิบัตรด้าน smart helmet technology ไป 170 กว่ารายการ และได้รางวัลการออกแบบจากสำนักดีไซน์ใหญ่ๆ ชื่อดังหลายรายการเช่น Reddot Design Award, iF Gold Award
ตอนนี้นอกจากหมวกอัจฉริยะแล้วเริ่มทำอุปกรณ์เสริมหมวกอื่นๆ ที่ใช้ matching กับหมวกด้วย พวกหูฟังไร้สาย ซึ่งก็มีมากับหมวก EVO21 ด้วยครับ
แบรนด์นี้ขายหมวกได้ปีละ 200,000 ใบ+ ทั่วโลก และก็เพิ่งเข้ามาตลาดไทยปีนี้ครับ
หมวก EVO21 ก็จะเน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นคนปั่น commute / city ride เป็นหลัก มีไฟสัญญาณ หน้า หลัง และไฟเลี้ยวซ้ายและขวา
ให้ดูหน้าตามุมข้างก่อน งานผลิตถือว่าใช้ได้เลย พลาสติก / finishing คุณภาพค่อนข้างดี สำหรับตัวนี้เป็นสีขาวล้วน ตรงแผงไฟที่ไล่จากหลังมาข้างก็เก็บงานได้ดีครับ
ตัวหมวก ฟีเจอร์แน่นแต่ไซซ์ M (54-58cm) หนักแค่ประมาณ 350 กรัมครับ แต่ใบนี้ลองชั่งแล้วหนักแค่ 334 กรัม เบากว่าสเป็คนิดหน่อย
ด้านในหมวกก็ถือว่ามาตรฐาน ถ้าซื้อถูกขนาดศีรษะเราด้านใน ฟองน้ำ สายรัดคางก็คล้ายๆ กับหมวกเสือหมอบทั่วไปครับ ใช้วัสดุค่อนข้างดี
อีกมุมหนึ่ง จะเห็นว่ามีไฟหน้าสีขาวอยู่ด้วย ก็สว่างใช้ได้ แต่ไฟทั้งหมดบนหมวกนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อส่องทาง แต่ทำให้ผู้ใช้ถนนมองเห็นเรามากกว่า เพราะถ้าใช้ตอนกลางคืนคู่กับไฟติดรถ (ซึ่งมักไม่อยู่ในระดับสายตาของคนใช้รถ) ก็จะทำให้คนอื่นมองเห็นตัวเราง่ายกว่า
รูปนี้ถ่ายให้ดูว่าตอนเปิดไฟหน้าอย่างเดียว (บน) เป็นยังไง กับไฟหน้า+ไฟเลี้ยว (ล่าง) ไฟเลี้ยวนี่จะเห็นเกือบรอบทิศทางของฝั่งที่เปิดไฟเลยไม่ใช่แค่ด้านข้างอย่างเดียว
ไฟหน้านี่ไม่ได้แค่ส่องข้างหน้าอย่างเดียว แต่ส่องสว่างเฉียงขึ้นด้วยประมาณ 45 องศา เวลาก้มหน้าปั่นถ้ามีคนขับรถสวนเราก็จะยังมองเห็นไฟอยู่
เห็นรูระบายอากาศน้อยๆ แบบนี้แต่ใส่ปั่นจริงไม่ร้อนเลยครับ
แน่นอนว่ามีไฟเลี้ยวแบบนี้ก็ต้องใช้ไฟฟ้า วิธีชาร์จคือผ่านพอร์ต USB ข้างหลังที่เชื่อมผ่าน magnetic connector (อารมณ์คล้ายๆ ที่ชาร์จ SRM!) แต่เพราะมันเป็นสายเฉพาะครับ ถ้าหายนี่ใช้สาย USB ธรรมดาแทนไม่ได้นะ
ส่วนปุ่มขวามือนั้นเป็นสวิทช์เปิดปิด ใช้วิธีกดค้างประมาณ 5 วิ
แล้วถามว่าควบคุมไฟยังไง? มันมากับรีโมทที่เอาไว้ติดตรงแฮนด์ครับ ใช้ควบคุมโหมดไฟ และถ้าใช้กับ smartphone (bluetooth) ก็สามารถเลือกรับโทรศัพท์ / บันทึกภาพได้ด้วย เช่นสมมติจะควักมือถือออกมาถ่ายรูปวิวข้างทาง แต่ไม่อยากเอื้อมมือไปกดปุ่มสำหรับถ่ายบนมือถือ ก็กดปุ่มบนรีโมทได้เลย สะดวกดี!
อันนี้โหมดต่างๆ จะเห็นว่ามันใช้คุมหูฟังไร้สายได้ด้วย ซึ่ง Livall มีขายแยกเพื่อให้ใช้กับหมวกรุ่นนี้ครับ
เวลาจะใช้รีโมท เราต้อง pair รีโมท / หมวกกับแอปในมือถือเราก่อน
จุดเด่นที่สุดของใบนี้สำหรับผมไม่ใช่เรื่องไฟส่องสว่างแต่เป็น impact detection mode ที่เรียกว่า SOS Function
การทำงานของมันคือหมวกมี motion sensor ที่หากพบว่า หมวกตกจากความสูงเกิน 1.5 เมตร (ความสูงปกติที่หัวเราอยู่ระหว่างปั่นจักรยาน ก็หมายความว่าถ้าตกคือเราล้ม) เราสามารถตั้งให้มันส่ง sms พร้อมพิกัดของเราไปยังเบอร์ที่เราบันทึกไว้ด้วย เช่นอาจจะใส่เบอร์คนในครอบครัวไว้
สำหรับหมวก Livall EVO21 ราคา 4,800 บาท
ถ้าไม่นับว่ามันเป็น smart helmet สเป็ค และงานที่ได้ถือว่าโอเคมากๆ ครับถูกกว่าหมวกเสือหมอบ performance และน้ำหนักไล่ๆ กับหมวกแอโรในตลาด